วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

การเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก

 
การเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก
 
 
 
1.รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงวังน้อยแล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32(สายเอเซีย)ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เข้านครสวรรค์ แล้วใช้เส้นทางสาย 117 ตรงสู่พิษณุโลก รวมระยะทาง 337 กิโลเมตร เป็นเส้นทาง ที่สะดวกที่สุด หรือจากสิงห์บุรี ใช้เส้นทางสายอินทร์บุรี-ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จนถึงทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ที่เขตอำเภอวังทอง เลี้ยวซ้ายไปอีก 17 กิโลเมตร เข้าสู่พิษณุโลกรวมระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร หากใช้เส้นทาง ที่ผ่านเพชรบูรณ์และหล่มสัก แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงหล่มสัก-พิษณุโลกระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร จะผ่านแหล่งท่องเที่ยวสองข้างทางหลายแห่ง

2.รถโดยสารประจำทาง
จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีบริการรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศไปยังพิษณุโลกตลอดวัน
สอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 0 2936 2852-66 หรือ www.transport.co.th และที่สถานีขนส่งพิษณุโลก โทร. 0 5524 2430 รถประจำทางปรับอากาศ ติดต่อ พิษณุโลกยานยนต์ทัวร์
โทร. 0 2936 2924-5 หรือ 0 5525 8647 เชิดชัยทัวร์ โทร. 0 2936 0199 หรือ 0 5521 1922 วินทัวร์
โทร. 0 2936 3753 หรือ 0 5524 3222

3.รถไฟ
ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดบริการรถด่วนพิเศษ (สปรินท์เตอร์) รถเร็ว และรถธรรมดา จากกรุงเทพฯ ไปพิษณุโลก ทุกวัน สอบถาม หน่วยบริการเดินทาง โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 สถานีรถไฟพิษณุโลก
โทร. 0 5525 8005 หรือ www.railway.co.th

4.เครื่องบิน
บริษัท การบินไทย จำกัด มีเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และพิษณุโลกทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที สอบถามกำหนดการเดินทาง โทร. 1566 ติดต่อสำรองที่นั่ง โทร. 0 2280 0060 หรือ 0 2628 2000, 0 2356 1111 หรือที่สำนักงานพิษณุโลก โทร. 0 5524 2971-2 หรือ www.thaiairways.com
  
  
  
  
  
  
  
  
ทีมา: http://www.paiduaykan.com/province/north/phitsanulok/transporation.html


 

ของฝากจากจังหวัดพิษณุโลก

ของฝากจากจังหวัดพิษณุโลก 
 
 
ไม้กวาดบ้านนาจาน
 

หมู่บ้านนาจาน อำเภอชาติตระการ ประชากรมีอาชีพเสริมในการทำไม้กวาดจากดอกหญ้าแท้ๆ และใช้ด้ามหวายอย่างดี ฝีมือละเอียด ราคาไม่แพง



สุนัขพันธุ์บางแก้ว
 

เป็นความภูมิใจของชาวพิษณุโลก ราคาซื้อค่อนข้างสูง กิตติศัพท์ของสุนัขบางแก้วคือ ดุ ซื่อสัตย์กตัญญูต่อผู้เลี้ยง และค่อนข้างขี้อิจฉา ลักษณะพันธ์แท้นั้น ปากแปลมคล้ายสุนัขจิ้งจอก หางเป็นพวง หูชัน ชอบเล่นน้ำ ทนความร้อนไม่ดี ความเป็นมาของสุนัขบางแก้วมีอยู่ว่าหลวงปู่มากจำพรรษาอยู่ที่วัดชุมแสงสงคราม ท่านเป็นผู้มีเมตตา เลี้ยงสัตว์มากมาย รวมทั้งหมาป่าด้วย ต่อมาหมาป่าได้ผสมพันธุ์กับสุนัขพื้นบ้านกลายเป็นพันธุ์ใหม่ คือ พันธุ์บางแก้วมาทุกวันนี้

นอกจากนี้ จังหวัดพิษณุโลกยังมีสินค้าพื้นเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อของที่เป็นที่รลึกได้อีกหลายชนิด เช่น พระพุทธชินราชจำลอภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและที่ร้านบูรณะไทย ผ้าทอนครไทย หมูหยอง หมูแผ่น ร้านเสริมกิจ และหมี่ซั่วซึ่งมีจำหน่ายทั่วไป

ของฝากจากจังหวัดพิษณุโลก

ของฝากจากจังหวัดพิษณุโลก

กล้วยตากบางกระทุ่ม


เป็นของฝากที่มีชื่อของจังหวัดพิษณุโลกกล้วยตากบางกระทุ่มมีเนื้อนุ่ม รสชาติหอมหวาน น่ารับประทาน นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อได้ที่ศาลาขายของที่ระลึกในวัดใหญ่ หรือร้านค้าของที่ระลึกทั่วไปในตลาด


แหนมและหมูยอสุพัตรา
 


เป็นแหนมสดและหมูยอที่ขึ้นชื่อของพิษณุโลก สะอาดและรสชาติอร่อย เป็นอุตสาหกรรมภายในครอบครัวของโรงงานสุพัตรา


น้ำปลาบางระกำ
 

อำเภอบางระกำ มีชื่อในการทำน้ำปลามานานแล้วน้ำปลาที่นี้ ทำจากปลาสร้อยในลำน้ำยม รับรองคุณภาพได้ว่าเป็นน้ำปลาแท้

ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง

ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง


วันนี้จะมาแนะนำอาหารจานเดียวในพิษณุโลกอีกหนึ่งร้าน เป็นร้านข้าวมันไก่ ที่อร่อยน่าไปโดนอีกหนึ่งร้านสำหรับคนพิษณุโลก โดยร้านนี้มีชื่อว่า ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง ซุปเปอร์แซบไก่

ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง ซุปเปอร์แซบไก่

โดยร้านนี้อยู่บริเวณแยกบ้านคลองมา (ถ้ามาจากสุโขทัย) ที่ต้องพูดจากทางมาจากสุโขทัยเพราะ ร้านจะอยู่ฝังนั้น แต่หามาจากพิษณุโลกต้องยูเทิร์น กลับมาโดยเมนูของร้านมีดังต่อไปนี้
  • ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา 25-30 บาท
  • ข้าวมันไก่ทอด 25-30 บาท
  • ข้าวมันสองหน้า 30-35 บาท
  • ข้าวมันน่องไก่น้ำแดง 35 บาท
  • น่องไก่น้ำแดง 25 บาท
  • ข้าวเปล่า 10 บาท
จานในรูปด้านบน 35 บาทครับน้ำซุปอร่อยพอได้เลยทีเดียว

ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง
 
ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง

แผนที่ ข้าวมันไก่ต้มน้ำปลา ห่อใบตอง (จ่าตุ๊) แยกบ้านคลอง

         

ที่มา:http://phitsanulok.modify.in.th/%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2-%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%ad/

บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า

บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก


วันนี้เป็นวันเปิดตัวร้าน บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก เป็นสาขาอีกหนึ่งสาขาของ บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า วันนี้ตื่นเร็วพอดี ก็ลองแวะไปดู ร้านนี้อยู่แถว ชุมชนตาลเดี่ยว เกือบถึง 7-11 (เดียวดูได้จาก Google Maps) เอานะครับ
 
บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก
 
บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก
ผมมากินช่วงประมาณบ่ายโมง (ได้เป็น 2 ชามสุดท้าย บะหมี่จึงไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ เพราะวันเปิดตัวคนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าขายดีจริงๆ ภาพเลยได้มาแบบที่เห็นจร้า
 
  • บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก  


สำหรับรถชาติผมว่าอร่อยพอได้เลย (พริกเผ็ดมาก ใครมากินต้องระวังหน่อยนะใส่เยอะไม่ได้ถ้าไม่ชอบเผ็ด)
สำหรับเวลาเปิดร้าน เขาบอกว่าเปิดตั้งแต่ 10.00 – 21.00 น. สำหรับราคาอยู่ที่ 30-35 บาท เปิดวันแรก 12 สิงหาคม 2556 (วันที่โพส)
ใครอยากลองไปชิมกันได้สามารถดูแผนที่ด้านล่างได้เลยจร้า

แผนที่ บะหมี่เกี๊ยว โหน่ง ชะชะช่า ชุมชนตาลเดี่ยว พิษณุโลก


วิดีโอแนะนำ

 
|

เบียร์คอนเนอร์ พิษณุโลก

เบียร์คอนเนอร์ (Beer Corner) พิษณุโลก แนะนำร้านกินเบียร์ยามค่ำคืน แผนที่


วันนี้พอดีเพื่อนมาจากนครสวรรค์ มีโอกาศได้มาร้าน เบียร์คอนเนอร์ (Beer Corner) ตัวผมเองก็ยังไม่เคยมาหลอก แต่พอดีว่าไหนๆเพื่อนมาแล้วก็เลย ลองมาร้านนี้ด้วย กะว่าจะรีวิวด้วยแหละ และพาเพื่อนมาเที่ยวด้วย สำหรับ เบียร์คอนเนอร์ (Beer Corner) จะอยู่ข้างๆกับ Big C โดยหากใครไปแล้วขับรถมาต้องไปจอดไว้ที่ Big C แล้วสามารถเดินจากลานจอดรถเข้าไปยังที่ร้านได้เลย ตอนผมไปทีแรกไปจอดบนถนนใหญ่เลย เดินเข้าร้านจึงรู้ว่าต้องไปจอดที่ Big C
 
Beer Corner Phitsanulok Beer Corner Phitsanulok Beer Corner Phitsanulok Beer Corner Phitsanulok Beer Corner Phitsanulok Beer Corner Phitsanulok

ร้าน เบียร์คอนเนอร์ (Beer Corner) ก็จะขายเบียรด้วยเหล้าด้วยนะครับ และที่สำคัญมีสาวๆ มาคอยบริการ โดยจากที่ได้ยินมา เจ้าของร้านเป็นกันเองมาก และมีสาวๆบริการค่อยข้างดี แต่ผมไปแล้วสงสัยจะเป็น ลูกลูกค้าใหม่ ประกอบกับวันนั้นฝนตกด้วย สาวๆเลยอาจจะยุ่งๆ แทบไม่ได้เห็นหน้าสาวๆเลยนอกจากตอนเติมเบียร แต่มีลุงที่รู้จักกัน (ในพิดโลก) เขาไปร้านนี้ปล่อยๆ บอกว่าสาวๆที่นี่เรียกมานั่งได้เลยครับ ถ้าเขาไม่ยุ่งจะมานั่งกับเรา ประมาณนั้น แต่เรื่องสาวๆนี้ผมไม่ถนัด เอาบรรยากาศดีกว่า
สำหรับเรื่องดนตรี จะเป็นแบบวงดนตรีสด เล่นเพลงเพื่อชีวิต ช่วงหัวค่ำจะมีสาวๆ มาเต้นอยู่หน้าเวที ผมมีโอกาศได้ไปเก็บรูปอยู่บ้างแต่ภาพมืดไปหน่อย ถ่ายจากโทรํศัพท์เลยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ และทางร้านมีจอใหญ่ไว้ให้ชมบอลกันด้วย จะมีทั้งกลางแจ้งและ ในร่วม (หมายถึงที่นั่งนะครับ)
รูปพวกนี้ผมไปได้สักพักแล้วหละครับ กินได้ประมาณ 1 ทาวเวอร์ กับอีก 3 เหยือก กับข้าว 4 อย่าง (ส่วนใหญ่เป็นกับแก้ม พวกทอด และ ยำ เช็คบิล ประมาณ 1,500 บาท
สำหรับที่ตั้งของร้านจะอยู่ข้างๆของ Big C ต้องไปจอดรถใน Big C แผนที่ของร้านอยู่ด้านล่าง จร้า


 
สำหรับภาพขอโทษทีนะจ๊ะ ไม่ค่อยได้ถ่าย พอดีวันที่ไปฝนตก ทีแรกกะจะเก็บรายละเอียด มาให้หมดในร้านแต่จังหวะและเวลาไม่เอื้อเท่าไหร่ บทความนี้เลยเขียนได้ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ และอีกอย่าง นั่งไม่นานด้วย ไปร้องคาราโอเกะกันต่อ เดียวไว้จะมารีวิวอีกทีนะจ๊ะ ช่วงนี้ไปหลายที แต่แทบไม่ได้อัพเดทเว็บไซต์เลย มั่วแต่เขียนบทความเว็บอื่น แทบไม่มีเวลามาอัพเดทสถานที่เที่ยวพิษณุโลกเลย จะพยามอัพบ่อยๆนะจ๊ะ

ที่มา:http://phitsanulok.modify.in.th/%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c-beer-corner/

แนะนำอาหาร จังหวัดพิษณุโลก

                  เงาไผ่ จิ้มจุ่ม พิษณุโลก

เมื่อคืนวานผมมีโอกาศได้ไปทานจิ้มจุ่มร้าน เงาไผ่ จิ้มจุ่ม หลังจากหาร้านอยู่นาน พอดีน้องอยากกินหมูกะทะ แต่ขับรถ วนหาอยู่นาน และด้วยความที่ไม่ค่อยชินทางเท่าไหร่ ก็ไปเจอ ร้าน เงาไผ่ จิ้มจุ่ม โดยบังเอิญ อะ หมูกะทะ กับ จิ้มจุ่ม ก็คงไม่ต่างกันมาก เลยแวะลองชิมสะเลย สำหรับใครยังไม่รู้สถานที่ตั้งอยู่ ที่แผนที่ด้านล่างนะครับ ไม่ชินเส้นทาง ให้ดู Google Map เอาเลยหละกัน

จริงๆวันที่ไปทานไม่ได้กะจะรีวิวอะไร เพราะตอนไปก็หิวได้ที่พอสมควร แต่พอดีผมมี Blog ของ พิษณุโลกอยู่หนึ่ง blog ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่มาอยู่พิษณุโลกใหม่ๆว่าจะเขียนทุกอย่างที่ได้ไปมา เพื่อแนะนำ และเป็นการ note ไว้ในตัว แต่ด้วยความขี้เกียจก็เลยทิ้ง blog นี้ไปเลย วันนี้ว่างๆ ไม่ได้ทำอะไรก็เลยมารีวิวสักหน่อย เกิ้นมาตั้งนาน จะพยายามบอกว่ารูปที่ได้มันมาน้อยไปสักหน่อยนะครับ (แค่นี้และที่พยามจะสือ 555)
เข้าเรื่องรีวิวกันเลยดีกว่า
 
เสริฟมาแล้วพร้อมน้ำจิ้มแบบ 3 อย่าง อะไรบ้างผมก็ไม่รู้แต่อร่อยทุกอย่าง ^^
 
เสริฟมาแล้วพร้อมน้ำจิ้มแบบ 3 อย่าง อะไรบ้างผมก็ไม่รู้แต่อร่อยทุกอย่าง ^^
 
เมนูอาหาร และราคา พยามดูกันหน่อยนะมีราคาอยู่ด้วย แหะๆ โดยทางร้านจะให้ใบนี้มาแล้วให้เราใส่จำนวนที่เราอยากได้ลงไปในของที่เราต้องการแต่ละอย่าง
 
เมนูอาหาร และราคา พยามดูกันหน่อยนะมีราคาอยู่ด้วย แหะๆ โดยทางร้านจะให้ใบนี้มา
แล้วให้เราใส่จำนวนที่เราอยากได้ลงไปในของที่เราต้องการแต่ละอย่าง
 

บรรยากาศร้าน เงาไผ่ จิ้มจุ่ม พิษณุโลก
 
บรรยากาศร้าน เงาไผ่ จิ้มจุ่ม พิษณุโลก
 
หม้อไฟฟ้า เดือนเร็วดีเหมือนกันนะ
 
หม้อไฟฟ้า เดือนเร็วดีเหมือนกันนะ ของมาครบแล้ว (ไม่เร็วไม่ช้าเวลาพอประมาณ) เริ่มเลยหละกัน
 
ตกแต่งร้านนิดหน่อย
 
ตกแต่งร้านนิดหน่อย ผมนั่งตรงที่สามารถห้วยขาได้ ไม่ใช้โต๊ะส่วนตัว ถ้าจะคิดภาพตามคงเป็นแยวก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ก็มีโต๊ะ แยกอยู่หลายโต๊ะอยู่
ผมสั่งไปเยอะเหมือนกัน ดูจากรูปที่ 5 และมีเบียร 3 ขวด หมดไปประมาณ 420 บาท เรื่องราคาบรรยากาศก็ถือว่าไม่เลวเลย รสชาติผมว่าอร่อยเลยทีเดียว ที่ร้านมีพัดลมพัดให้เป็นโต๊ะเลยแบบว่าเย็นขากันเลยทีเดียว นั่งไปไม่ต้องกังวนเรื่องยุงมากัด (อันนี้ผมชอบเป็นพิเศษ)
สำหรับใครอยากลองอยากโดนกันบ้าง สามารถดูแผนที่ได้จากด้านล่างเลย
 
ที่มา:http://phitsanulok.modify.in.th/%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%9c%e0%b9%88-%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%88%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1-%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%93%e0%b8%b8%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81/

แหล่งท่องเที่ยว 3

น้ำตกแก่งซอง
อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
 


น้ำตกแก่งซองตั้งอยู่ที่ ริมทางหลวงหมายเลข 12 กม.ที่ 45 บริเวณบ้านแก่งซอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลกเข้าเที่ยวชมได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนเย็น และท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 055-252742-3 โทรสาร 055-231063 ติดต่อสอบถามข้อมูลกันไปได้ครับ การเดินทางมายังน้ำตกแก่งซองโดยทางรถยนต์ เส้นทางแรก จากกรุงเทพ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 จนถึงสิงห์บุรีแล้วแยกเข้าทางสายเอเชีย ทางหลวงหมายเลข 11 สายอินทร์บุรี-ตากฟ้า จนถึงทางหลวงหมายเลข12 พิษณุโลก-หล่มสัก ที่ อ.วังทอง เลี้ยวซ้ายเข้าไปหล่มสัก จนถึงกม.ที่ 45 ก็จะถึงน้ำตกแก่งซอง สังเกตได้จากจะมีจุดบริการล่องแก่งตลอดแนว เส้นทางที่สอง เดินทางโดยใช้ถนนสายเอเชียเข้า นครสวรรค์ และใช้เส้นทางหมายเลข 117 ตรงเข้าจังหวัดพิษณุโลกผ่านตัวเมืองพิษณุโลกเดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 12 จนถึง กม. ที่ 45 ก็จะถึงน้ำตกแก่งซอง ทั้งสองเส้นทางเดินทางสะดวกเท้าถึงตัวน้ำตกมีป้ายบอกตลอดการเดินทาง

 
ที่มา:http://www.thai-tour.com/thai-tour/north/pitsanulok/data/place/pic_kang-song-waterfall.html

 

แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดพิษณุโลก2



ศาลสมเด็จพระนเรศวร
Shrine of King Narasuan
อ.เมือง .พิษณุโลก


ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ซึ่งเป็นพระราชวังจันทน์มาก่อนในอดีต ตัวศาลเป็นศาลาทรงไทยโบราณตรีมุข พระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีขนาดเท่าองค์จริง ประทับนั่ง พระหัตถ์ทรงพระสุวรรณภิงคารหลั่งน้ำในพระอิริยาบถประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง สร้างโดยกรมศิลปากร เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2404 มีการจัดงานสักการะพระบรมรูปในวันที่ 25 มกราคมของทุกปี
เมื่อเดือนมีนาคม 2535 กรมศิลปากรได้ขุดค้นพบแนวเขตพระราชฐานพระราชวังจันทน์ ซึ่งเป็นสถานที่พระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งนับว่าเป็นการขุดค้นทางโบราณคดีและทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของจังหวัด ในปัจจุบันกรมศิลปากรได้กลบหลุมขุดเพื่อเป็นการอนุรักษ์โบราณสถานไว้ จนกว่าจะได้มีการขุดค้นอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง




 
วิดีโอแนะนำ
 
 

แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดพิษณุโลก

วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) พิษณุโลกWat Phrasimahathat




วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเรียกขานกันว่า วัดใหญ่ หรือวัดพระศรี กันจนติดปาก แม้นพระประธานองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในวิหารคือ พระพุทธชินราช ชาวเมืองพิษณุโลกก็นิยมเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ ตามไปด้วย วัดใหญ่นับเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญของจังหวัด เพราะเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวเมืองและชาวไทยทั้งประเทศ ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อปี พ.ศ. 1900
ภายในวัดสิ่งโบราณสถานโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย อาทิ
 พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว และสูง 7 ศอก ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศ เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง พระหัตถ์มีปลายนิ้วทั้งสี่เสมอกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเรียกว่า ทีฒงฺคุลี ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักสร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นรูปมกร (ลำตัวคล้ายมังกร มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และตัวเหรา (คล้ายจระเข้) อยู่ตรงกลาง และมีเทพอสุราคอยปกป้ององค์พระอยู่ 2 องค์ พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย โปรดให้สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามและวัดบวรนิเวศวิหารตามลำดับ
บานประตูประดับมุก ที่ทางเข้าพระวิหารด้านหน้า สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2299 เป็นฝีมือช่างหลวงสมัยอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมโกศ ตรงกลางประตูมีสันอกเลาประดับลวดลายพุ่มข้าวบิณฑ์ สองข้างเป็นลายกนกก้านแย่ง ช่วงกลางอกเลามีรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เรียกว่า นมอกเลา เป็นรูปบุษบก มีรูปพระอุณาโลมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ประดิษฐานบนบัลลังก์อยู่ในบุษบก สองข้างเป็นรูปชุมสายซึ่งเป็นเครื่องสูงชนิดหนึ่ง เป็นรูปฉัตรสามชั้น ใต้ฐานบุษบกมีหนุมานแบกฐานไว้ ส่วนเชิงล่างของอกเลาทำเป็นรูปกุมภัณฑ์ยืนถือกระบองท่าสำแดงฤทธิ์ ส่วนลวดลายบานประตูเป็นลายกนกที่มีภาพสัตว์หิมพานต์ เช่น ราชสีห์ คชสีห์ เหมราช ครุฑ กินรีรำ และภาพสัตว์อื่น ๆ และยังมีลาย อีแปะ ด้านละ 9 วงมัดนกหูช้างประกอบช่องไฟระหว่างวงกลม หรือวงกลมเป็นลายกรุยเชิง มีลายประจำยามก้ามปูประดับขอบรอบบานประตู เดิมบานประตูวิหารพระพุทธชินราชทำด้วยไม้สักแกะสลัก เมื่อทำบานประตูประดับมุกเสร็จแล้ว บานประตูเก่าได้นำไปประดับประตูวิหารพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์
    


พระเหลือ พระยาลิไทรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา มารวมกันหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดเล็ก เรียกว่า พระเหลือ และพระสาวกยืนอีก 2 องค์ ส่วนอิฐที่ก่อเตาสำหรับหลอมทองได้นำมารวมกันบนฐานชุกชี พร้อมกับปลูกต้นมหาโพธิ์ 3 ต้นบนชุกชี เรียกว่า โพธิ์สามเส้า ระหว่างต้นโพธิ์ได้สร้างวิหารน้อยขึ้นหนึ่งหลัง อัญเชิญพระเหลือกับพระสาวกไปประดิษฐาน เรียกว่า วิหารพระเหลือ
พระอัฏฐารส เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติด้านหลังพระวิหาร สูง 18 ศอก สร้างในสมัยเดียวกับพระพุทธชินราช ราว พ.ศ. 1811 เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารใหญ่แต่วิหารได้พังไปจนหมด เหลือเพียงเสาที่ก่อด้วยศิลาแลงขนาดใหญ่ 3-4 ต้น เรียกว่า เนินวิหารเก้าห้อง
พระปรางค์ประธาน ศิลปสมัยอยุธยาตอนต้น ฐานย่อเหลี่ยมไม้ยี่สิบ เดิมเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัยแท้ ต่อมาถูกแปลงให้เป็นพระปรางค์ในสมัยอยุธยา
วิหารแกลบ พระเจ้าเข้านิพพาน เป็นโบราณวัตถุสมัยอยุธยา นับว่าเป็นชิ้นสำคัญของวัดพระศรีรัตนมหาวรวิหาร ถือว่าเป็นการจำลองสังเวชนียสถานของพระพุทธเจ้า คาดว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะเป็นหีบบรรจุพระบรมศพ ทำด้วยศิลาตั้งอยู่บนจิตราการ ประดับด้วยลวดลายลงรักปิดร่องกระจกสวยงาม ที่ปลายหีบมีพระบาททั้งสองยื่นออกมา และบริเวณด้านหน้า หรือด้านท้าย หีบพระบรมศพ มีพระมหากัสสปะเถระ นั่งนมัสการพระบรมศพ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เปิดทุกวัน เวลา 6.30-18.00 น. ส่วนพิพิธภัณฑ์ในวัดเปิดเวลา 8.30-16.30 น.
 

ประวัติ จังหวัดพิษณุโลก

ประวัติความเป็นมา จังหวัดพิษณุโลก



                                        ตราประจำจังหวัด
 




จังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่างมีประวัติศาสตร์อันยาวนานควบคู่กับประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันในศิลาจารึก ตำนาน นิทาน และพงศาวดาร เช่น สองแคว, สองแควทวิสาขะ และไทยวนที
เดิมเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าสมัยขอม อยู่ห่างจากที่ตั้งเมืองปัจจุบันลงไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เรียกว่า "เมืองสองแคว" ที่เรียกเช่นนี้ เพราะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำน่าน กับแม่น้ำแควน้อย แต่ปัจจุบันแม่น้ำแควน้อยเปลี่ยนทางเดินออกห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร
ที่ตั้งตัวเมืองเก่าในปัจจุบันคือ บริเวณวัดจุฬามณี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของพิษณุโลก แต่เมื่อประมาณพุทธศักราช 1900 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้โปรด ให้ย้ายเมืองสองแคว มาตั้งอยู่ ณ บริเวณตัวเมืองในปัจจุบัน และยังคงเรียกกันติดปากว่า เมืองสองแคว เรื่อยมา


ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81